จากแนวการจัดการศึกษาของประเทศที่รวมศูนย์จากส่วนกลาง จากสภา กระทาวง จังหวัด และโรงเรียนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการจัดการศึกษาของประเทศ ต่างก็ได้มีรายงานเกี่ยวกับเงื่อนไขต่างๆของการศึกษาของชาติ บ้างระบุชี้ให้เห็นปัญหา บ้างก็ตำหนิ ประนามผู้ที่มีส่วนก่อให้เกิดปัญหาที่แก้ไม่ตกมาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งมักจะยกประเด็นปัญหาถึงความไร้ความสามารถของนักเรียนไทย ที่แสดงผลการปฏบัติทางการเรียนจากการทดสอบ และยังมีความยากลำบาก และยุ่งยากจากเงื่อนไขทางการศึกษาของชาติที่ไร้ประสิทธิภาพด้วยเหตุผลต่างๆกัน นักการศึกษาจำนวนมากได้ยกประเด็นคำถามเกี่ยวข้องกับความเข้าใจและความหมาย และบทบาทของโรงเรียนที่จะส่งเสริมหรือยับยั้งการค้นหาความเข้าใจ ที่มีความสำคัญมากกว่าคำถามที่เกี่ยวกับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนจากคะแนนทดสอบ
มีข้อเสนอมากมายที่พยามนำมาใช้แก้ปัญหาต่างๆ ของนักเรียนในการสร้างความหมายจากการเรียน ข้อเสนอเหล่านี้มีทั้งการปรับปรุงการประเมินผลใหม่ในทางปฏิบัติ เพื่อทำให้อยู่ในประเด็นการเรียนรู้ของนักเรียน ตั้งทีมฐานการจัดการในโรงเรียน คิดใหม่กับสมรรถนะและ ประสิทธิภาพ ตามรอยการเรียนรู้ ความสามารถของกลุ่ม และการให้อิสระโรงเรียนในระดับตำบลจากการบังคับควบคุมจาก ส่วนกลาง และจังหวัด เราคงจะชื่นชมกับความพยายามเหล่านี้ แต่ก็พบว่าข้อเสนอเหล่านั้นก็ไปไม่ถึงไหน เพราะไม่ได้พูดกันอย่างตรงไปตรงมาเปิดเผยเกี่ยวกับระบบการศึกษาภายใต้การยอมรับกันว่าเป็นเช่นนั้น เกี่ยวกับความหมายที่จะเรียนรู้ เกี่ยวกับความหมายถึงอะไรสำหรับผู้ได้รับการศึกษาหรือมีการศึกษา กระบวนการสอนและการเรียนรู้ เกิดขึ้นทุกวันอย่างไม่สิ้นสุดในห้องเรียนทั่วประเทศ การปฏิรูปการศึกษาต้องเริ่มจากการที่นักเรียนเรียนรู้อย่างไร และครูสอนอย่างไร ไม่ใช่ผลลัพธ์ทางการเรียนที่บ่งกำหนดอย่างเป็นทางการ นอกเหนือสิ่งอื่นใด การสร้างความเข้าใจคือองค์ประกอบหลักในกระบวนการที่ซับซ้อนมาก ภายใต้ข้อเสนอที่ดูเหมือนว่าง่ายๆ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น